ในโลกของแสงสว่างอุตสาหกรรม โคมไฟ LED High Bay ที่ใช้ในโรงงาน โกดังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้า มักถูกนำเสนอในรูปแบบดีไซน์เดียวกัน แต่มีกำลังวัตต์ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 100W, 150W, 200W ไปจนถึง 240W และมากกว่านั้น
คำถามที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งคือ “ถ้าดีไซน์เหมือนกัน ทำไมต้องมีหลายวัตต์ และฉันควรเลือกวัตต์ไหน?”
การเลือกวัตต์ที่ไม่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น (Over-Lighting) แต่ยังอาจทำให้แสงสว่างไม่ถึงมาตรฐาน (Under-Lighting) หรือเกิดปัญหาแสงแยงตา (Glare) ที่เป็นอันตรายต่อพนักงาน การเลือกวัตต์ที่ถูกต้องไม่ใช่แค่การ “เดา” แต่เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย
บทความนี้ Rawee Lighting จะเจาะลึกถึงหลักการที่อยู่เบื้องหลังการมีหลายกำลังวัตต์ในโคมไฟรุ่นเดียวกัน และอธิบายวิธีการใช้กำลังวัตต์ที่แตกต่างกันเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายการออกแบบแสงสว่างที่สมบูรณ์แบบและคุ้มค่าที่สุด
สารบัญ
Toggle- 1. ⚙️ ความจริงเชิงวิศวกรรม: กำลังวัตต์ (Wattage) ไม่ใช่ตัววัด “ความสว่าง” เสมอไป
- 2. 🗺️ ตัวแปรหลักที่กำหนดการเลือกกำลังวัตต์
- 3. 🖥️ DIALux คือเครื่องมือตัดสินใจ: หยุดการเดาด้วยการจำลองแสง
- 4. ⭐ เลือก Rawee Lighting: โซลูชันที่มาพร้อมกับการคำนวณที่แม่นยำ
- สรุป: การเลือกวัตต์คือศิลปะของการประหยัดพลังงาน
- Rawee Lighting ผู้นำด้านแสงสว่างที่คุณวางใจได้
1. ⚙️ ความจริงเชิงวิศวกรรม: กำลังวัตต์ (Wattage) ไม่ใช่ตัววัด “ความสว่าง” เสมอไป
ก่อนที่จะลงลึกในการเลือกวัตต์ เราต้องทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขสำคัญ 3 ตัว:
1.1 วัตต์ (Wattage) คือ “การใช้พลังงาน”
-
วัตต์: คือปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่โคมไฟดึงไปใช้เพื่อสร้างแสงสว่าง เป็นตัวกำหนดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในแต่ละเดือน
-
ความเข้าใจผิด: ผู้ใช้งานมักเข้าใจผิดว่าวัตต์ที่สูงกว่าจะสว่างกว่าเสมอ แต่ความจริงคือประสิทธิภาพการแปลงพลังงานต่างหากที่สำคัญกว่า
1.2 ลูเมน (Lumen) คือ “ปริมาณแสง”
-
ลูเมน: คือปริมาณแสงทั้งหมดที่โคมไฟปล่อยออกมาจากตัวมันเอง ยิ่งลูเมนสูง โคมไฟก็ยิ่งปล่อยแสงออกมามาก
-
ประสิทธิผลทางแสง (LM/W): ตัวเลขสำคัญที่สุดคืออัตราส่วน ลูเมนต่อวัตต์ (LM/W) ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน โคมไฟคุณภาพสูง (เช่น ของ Rawee Lighting) มักมีค่า LM/W สูงถึง 150 LM/W ขึ้นไป
1.3 ลักซ์ (Lux) คือ “ความสว่างบนพื้นผิว”
-
ลักซ์: คือความสว่างที่วัดได้บนพื้นที่ทำงานจริง (เช่น บนโต๊ะ หรือบนพื้นโรงงาน) เป็นตัวเลขที่ต้องถึงมาตรฐาน มอก. หรือมาตรฐานสากลที่กำหนด
-
โจทย์ของการออกแบบ: การมีหลายกำลังวัตต์ คือการให้วิศวกรเลือกกำลังวัตต์ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้ค่า ลักซ์ (Lux) ที่ต้องการ ในพื้นที่ที่มีความสูงและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน
2. 🗺️ ตัวแปรหลักที่กำหนดการเลือกกำลังวัตต์
การที่โคมไฟ LED รุ่นเดียวมีหลายวัตต์ ก็เพื่อให้นักออกแบบแสงสว่างสามารถควบคุม “ความหนาแน่นของแสง” ให้เหมาะสมกับปัจจัยสำคัญ 3 ประการ:
2.1 ปัจจัยที่ 1: ความสูงในการติดตั้ง (Mounting Height)
นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกวัตต์:
-
เพดานต่ำ (8 – 10 เมตร): เมื่อติดตั้งโคมไฟที่ความสูงไม่มาก แสงสว่างจะเดินทางไปถึงพื้นได้ง่าย การใช้กำลังวัตต์สูงเกินไป (เช่น 200W) อาจทำให้แสงจ้าเกินไปและเกิดแสงแยงตา (Glare) ได้ง่าย ดังนั้นจึงเหมาะสมกับวัตต์ที่ต่ำกว่า (เช่น 100W หรือ 150W)
-
เพดานสูงมาก (15 เมตรขึ้นไป): ที่ความสูงระดับนี้ แสงสว่างที่ปล่อยออกมาจะสูญเสียความเข้มข้นไปมากในระหว่างการเดินทางสู่พื้น ทำให้จำเป็นต้องใช้กำลังวัตต์ที่สูงขึ้น (200W, 240W หรือสูงกว่า) เพื่อชดเชยการสูญเสียความเข้มของแสง และเพื่อให้ได้ค่า Lux ขั้นต่ำตามมาตรฐานที่ต้องการ
2.2 ปัจจัยที่ 2: ความสม่ำเสมอของแสง (Uniformity)
-
ความสม่ำเสมอ (Uniformity Ratio): คืออัตราส่วนระหว่างค่า Lux ต่ำสุดต่อค่า Lux เฉลี่ย ซึ่งควรมีค่าสูงเพื่อป้องกันจุดมืด (Dark Spots)
-
ความถี่ในการติดตั้ง: ในพื้นที่สูงมาก การใช้โคมไฟวัตต์สูงจะช่วยให้คุณสามารถติดตั้งโคมไฟห่างกันได้มากขึ้น (ลดจำนวนโคมไฟรวม) ในขณะที่ยังคงรักษาค่า Uniformity ได้ แต่หากใช้โคมไฟวัตต์ต่ำกว่า ก็อาจต้องติดตั้งถี่ขึ้นเพื่อรักษาความสม่ำเสมอ
2.3 ปัจจัยที่ 3: ระดับลักซ์ที่ต้องการ (Required Lux Level)
การใช้งานแต่ละประเภทต้องการความสว่างแตกต่างกัน ซึ่งกำหนดโดยมาตรฐาน
| ประเภทพื้นที่ใช้งาน | ค่า Lux ขั้นต่ำที่ต้องการ (โดยประมาณ) | กำลังวัตต์ที่เหมาะสม (พิจารณาร่วมกับความสูง) |
| คลังสินค้า / ทางเดิน | 100 – 200 Lux | 100W – 150W |
| พื้นที่ผลิต/ประกอบทั่วไป | 300 – 500 Lux | 150W – 200W |
| พื้นที่ตรวจสอบคุณภาพ (QC) / งานละเอียด | 750 – 1,000 Lux | 200W – 240W หรือใช้โคมไฟหลายดวงในพื้นที่จำกัด |
3. 🖥️ DIALux คือเครื่องมือตัดสินใจ: หยุดการเดาด้วยการจำลองแสง
ในอดีต การเลือกวัตต์เป็นเรื่องของการ “กะประมาณ” แต่ปัจจุบัน วิศวกรแสงสว่าง ต้องใช้โปรแกรมมาตรฐานสากลอย่าง DIALux ในการจำลองผลลัพธ์ก่อนการตัดสินใจซื้อ
3.1 การทดลองด้วย IES File ของหลายกำลังวัตต์
โคมไฟ LED High Bay รุ่นเดียวกันของ Rawee Lighting จะมี Photometric Data (IES File) ที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละกำลังวัตต์ เมื่อวิศวกรทำการจำลองใน DIALux จะสามารถ:
-
ป้อนขนาดพื้นที่และความสูง: กำหนด Geometry ของโรงงาน
-
ป้อน IES File ของ 150W: ดูผลลัพธ์ค่า Lux ที่ได้
-
เปลี่ยนเป็น IES File ของ 200W: ดูผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้น และเปรียบเทียบว่าการเพิ่มวัตต์นั้นคุ้มค่าต่อการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นหรือไม่
3.2 การหาจุดสมดุลระหว่าง Lux และ TCO
เป้าหมายของการใช้ DIALux คือการหา “จุดสมดุลที่เหมาะสมที่สุด” ที่ให้ค่า Lux และ Uniformity ที่เป็นไปตามมาตรฐาน โดยใช้กำลังวัตต์รวมของระบบที่ต่ำที่สุด เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานสูงสุด และลด TCO (Total Cost of Ownership) ในระยะยาว
4. ⭐ เลือก Rawee Lighting: โซลูชันที่มาพร้อมกับการคำนวณที่แม่นยำ
การที่ Rawee Lighting มีโคมไฟ LED High Bay รุ่นยอดนิยม (เช่น UFO Series) ให้เลือกหลายกำลังวัตต์ ก็เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายในการออกแบบของลูกค้าแต่ละราย
4.1 เราให้คำปรึกษาการเลือกวัตต์ตามพื้นที่จริง
เราไม่ขายโคมไฟด้วยการบอกให้ลูกค้า “ลองดู” แต่เราขายโซลูชันที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
-
พื้นที่ที่มีความสูงต่างกัน: เราแนะนำให้ใช้กำลังวัตต์ที่ต่างกัน แม้จะเป็นโรงงานเดียวกัน แต่มีส่วนของโกดัง (สูง 15 เมตร) และส่วนผลิต (สูง 10 เมตร)
-
พื้นที่ที่ต้องการควบคุม Glare: เราสามารถแนะนำการลดกำลังวัตต์และใช้เลนส์ควบคุมแสง (Low Glare Lens) ร่วมกัน เพื่อให้ได้แสงสว่างที่เพียงพอโดยไม่เกิดแสงแยงตา
4.2 การรับประกันคุณภาพชิ้นส่วนทุกกำลังวัตต์
ไม่ว่าคุณจะเลือกโคมไฟ 100W หรือ 240W จาก Rawee Lighting คุณจะได้รับความมั่นใจในคุณภาพเดียวกัน:
-
Thermal Management ที่เหมาะสม: ทุกกำลังวัตต์ถูกออกแบบ Heat Sink ให้เหมาะสมกับความร้อนที่เกิดขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่า Chip และ Driver ทำงานที่อุณหภูมิที่ปลอดภัย
-
ชิ้นส่วนพรีเมียมมาตรฐานเดียวกัน: ทุกกำลังวัตต์ใช้ LED Chip (เช่น Nichia/Phillips) และ LED Driver (เช่น MEANWELL) เกรดพรีเมียม เพื่อรับประกันประสิทธิภาพ $L_{70}$ และการรับประกัน 5 ปีเต็ม ไม่ว่าจะเลือกใช้กำลังวัตต์ใดก็ตาม
สรุป: การเลือกวัตต์คือศิลปะของการประหยัดพลังงาน
การที่โคมไฟ LED High Bay 1 รุ่นมีหลายกำลังวัตต์ให้เลือก ไม่ได้เป็นเพียงการตลาด แต่เป็นคุณสมบัติที่จำเป็นทางวิศวกรรม เพื่อให้วิศวกรสามารถ “ปรับแต่ง” ความหนาแน่นของแสงให้สมบูรณ์แบบที่สุดตามความสูงและประเภทงานที่แตกต่างกัน
การเลือกกำลังวัตต์ที่เหมาะสมที่สุด คือกุญแจสำคัญในการ ประหยัดค่าไฟฟ้าสูงสุด และสร้าง สภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานสากล
คุณกำลังวางแผนโครงการโรงงานที่มีความสูงเพดานและลักษณะการใช้งานที่หลากหลายหรือไม่? ให้ทีมวิศวกรแสงสว่างของ Rawee Lighting ช่วยคำนวณและแนะนำกำลังวัตต์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกพื้นที่ในโครงการของคุณ พร้อมบริการจำลองแสง DIALux ฟรี
Rawee Lighting ผู้นำด้านแสงสว่างที่คุณวางใจได้

เมื่อพูดถึงโคมไฟคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ต้องนึกถึง Rawee Lighting หรือ บริษัท รวีไลท์ติ้ง กรุ๊ป จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 โดยมุ่งเน้นในการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายหลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน
จุดเด่นของ Rawee Lighting
-
- คุณภาพเหนือระดับ: ผลิตภัณฑ์ผ่านมาตรฐาน ISO พร้อมการรับประกันคุณภาพ
- นวัตกรรมล้ำสมัย: พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อความประหยัดและความปลอดภัย
- บริการครบวงจร: ตั้งแต่การสำรวจหน้างาน ออกแบบแสง จนถึงการติดตั้ง
- ทีมงานมืออาชีพ: วิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
หากคุณกำลังมองหาโคมไฟที่มีทั้งคุณภาพ ประสิทธิภาพ และบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม Rawee Lighting คือคำตอบที่ดีที่สุด!
ติดต่อเรา
-
-
- โทร: 02-2758854
- Hotline: 092-3459448
- Email: [email protected]
- ติดต่อผ่าน Line : @raweelighting

-